วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเสวนา suicide ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งหากแต่คือเรื่องของเราทุกคน (๑)




วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ คณะทำงานขับเคลื่อนเรื่องซึมเศร้าและเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย มิติพัฒนาการทำงานโดยนำแนวทางรูปแบบการจัดการความรู้เข้ามาต่อยอดและขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนางานให้สู่ความเข้มแข็งของเครือข่ายและเกิดพลังในการทำงาน
เวทีเสวนา... "suicide ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นเรื่องของคนทุกคนในสังคม"


ผู้เข้าร่วมเสวนา ที่เชิญมานั้น
พระพิทยา ทินนาโถ จากวัดป่าหนองไคร้
นพ.สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร
นพ.อดิเกียรติ เอี่ยมวรนิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยโสธร
นพ.เจษฎา เถาวห์หอม จิตแพทย์โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์
นางประชุมสุข โครตพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเหตุการณ์ภาวะวิกฤติ
พ.ต.อ.ไพรัช ชาญศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเหตุการณ์ภาวะวิกฤติ
ดำเนินรายการโดย Dr.Ka-Poom (นิภาพร ลครวงศ์)



ผู้เข้าร่วมฟังการเสวนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประกอบด้วยคณะกรรมการทำงานในเครือข่ายการทำงานด้านการป้องกันภาวะซึมเศร้าและเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และผู้ที่สนใจจำนวน 60 คน
เป้าหมายของการจัดเสวนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อนำองค์ความรู้ แนวความคิด และมุมมองที่ได้จากผู้เข้าร่วมเสวนาที่มีต่อเรื่องการฆ่าตัวตาย เพื่อนำไปสู่ประเด็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มย่อยของคณะทำงาน

รูปแบบการเสวนานี้นำไปสู่การสกัดความรู้ที่เป็น tacit knowledge ของผู้เข้าร่วมเสวนา
พระอาจารย์ต้อ หรือพระพิทยา ได้พูดถึงเรื่องความตาย ในมิติทางพุทธศาสนา ท่านบอกว่า "ในจำนวนสรรพสัตว์ต่างๆ ที่เกิดมามีมนุษย์นี่แหละที่ฆ่าตัวตาย ส่วนสัตว์ประเภทอื่นนั้นไม่เคยได้ยินว่ามีการฆ่าตัวตาย" ความหมายของการตาย คือ การละทิ้งซึ่งขันธ์ห้า อันประกอบด้วยรูปและนาม ที่ประกอบด้วยเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ การตายเพียงแค่การดับขันธ์นี้เท่านั้น ส่วนความหมายของการตายทางพุทธศาสนา คือ การตายจากกิเลสทั้งสิ้นทั้งปวง

ท่านนายแพทย์ สสจ.นพ.สุรพล ลอยหา ได้พูดถึงทัศนะของการทำงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวช ว่าเวลาที่พูดถึงจิตเวชนั้นมักจะให้รู้สึกเครียด จิตเวชน่าจะเปลี่ยนชื่อเช่น แผนกใจสบาย แล้วท่านพูดถึงตั้งแต่ย้ายมาที่จังหวัดยโสธรเมื่อสามปีก่อน แล้วท่านก็ประกาศนโยบายในเรื่องห้ามตาย หรือห้ามไม่มีการฆ่าตัวตายเกิดขึ้น ท่านได้ใช้ในเรื่องฐานข้อมูล และความเข้มแข็งของเครือข่ายมาเป็นฐานในการทำงาน ทำให้ทราบว่าจำนวนคนในชุมชนที่ฆ่าตัวตายนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นสะท้อนให้เห็นว่าคนในชุมชนมีปัญหาความทุกข์ทางด้านจิตใจจำนวนมาก

คำถามที่ปรากฏขึ้นในความคิดของท่าน "ทำไมที่นี่ถึงมีการฆ่าตัวตายเยอะ"
จากนั้นท่านก็ให้นโยบายการทำงานแก่คนทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านบอกว่าคนทำงานนั้นมีทฤษฎีเยอะแต่ขาดการเชื่อมโยงสู่การปฏิบัติ และการทำงานด้านนี้ผู้ใหญ่ต้องพูดบ่อยๆ และสนับสนุนให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง
-------
หากต้องการแผ่น DVD งานเสวนา ติอต่อได้ที่ กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลยโสธร